บทที่ 1
บทนำ
ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา
เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษามีบทบาทอย่างสำคัญมากต่อการเพิ่มผลผลิต
เพราะเทคโนโลยีเป็นเรื่องของการประยุกต์ใช้ผลผลิตทางวิทยาศาสตร์
ผู้บริหารท่านใดรู้จักใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุดแล้ว
ผู้บริหารท่านนั้นจะก้าวไปสู่ความสำเร็จและบริหารองค์กรสู่ความเป็นเลิศ ใน
ค.ศ. 1965 โจแอน
วูดเวิร์ด (Joan Woodward) ได้ศึกษาองค์การผลิตสินค้าจำนวน 100
แห่ง ในประเทศอังกฤษโดยได้ชี้ให้เห็นถึง ความสัมพันธ์ระหว่างเทคโนโลยี
โครงสร้างและความสำเร็จขององค์การ โครงสร้างองค์การเป็นสิ่งสำคัญในอันที่จะนำมาซึ่งความสำเร็จขององค์การ
และเทคโนโลยีก็มีส่วนช่วยทำให้เกิดความสำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งว่า
เทคโนโลยีจะส่งผลกระทบต่อโครงสร้างขององค์การโดยตรง ถ้าเทคโ นโลยีเปลี่ยนแปลงไป ก็จะต้องมีการปรับโครงสร้างองค์การให้สอดคล้องกันด้วย
ตัวอย่างเช่น องค์การที่มีโครงสร้างแบบเครื่องจักรกล (Machanistic Structure) กับโครงสร้างแบบสิ่งมีชีวิต (Organic
Structure ) นั้น
เมื่อรับเอาเทคโนโลยีเข้าไปใช้แล้วผลสำเร็จขององค์การที่ปรากฏอออกมาแตกต่างกัน
วูดเวิร์ด ได้แบ่งประเภทของเทคโนโลยีที่ใช้การศึกษาสามกลุ่ม คือ
เทคโนโลยีผลิตตามคำสั่งของลูกค้า เทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิตจำนวนมาก
และเทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิตแบบกระบวนการ
(ประมวลสาระชุดวิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษากับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ .
หน่วยที่ 8- 15 ม.สธ. :
2536 : 62-63 )
โลกปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศมีความสำคัญมากซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บ
การประมวลผล การนำเสนอผล
และการสืบค้นสารสนเทศด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์โทรคมนาคมที่ทันสมัยจึงเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการติดต่อผ่านเครือข่ายที่ครอบคลุมทั่วโลก
ด้วยเหตุนี้ทำให้อินเทอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทสำคัญ
เนื่องจากอินเทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมเครือข่ายย่อยทั่วโลกสามารถเชื่อมเข้าด้วยกัน โดยใช้ มาตรฐานเดียวกันในการติดต่อสื่อสาร
อินเทอร์เน็ตจึงเป็นแหล่งสารสนเทศสำคัญ
สำหรับบุคคลในทุกวงการและทุกสาขาอาชีพ
สามารถค้นคว้าข้อมูลที่สนใจได้ทันที
หรือแม้แต่การรับรู้ข่าวสารที่ทันสมัยทั่วโลก
และการติดต่อสื่อสารระหว่างบุคคลก็สามารถโต้ตอบกันได้สะดวกรวดเร็ว (กิดานันท์ มะลิทอง 2543 : 314 - 315) จากความสามารถดังกล่าว
จึงก่อให้เกิดการเชื่อมโยงของกิจกรรม ด้านเศรษฐกิจสังคมวัฒนธรรมการเมืองและการศึกษา
ดังที่ เชาวเลิศ เลิศชโลฬาร และกอบกุล สรรพกิจจำนง (2543
: 83) ได้กล่าวว่า "อินเทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่อำนวยความสะดวกด้านการศึกษา
องค์กร รัฐบาล ตลอดจนหน่วยงานธุรกิจเอกชนให้สามารถทำการติดต่อสื่อสารกันอย่างรวดเร็ว
และมีประสิทธิภาพได้ทั่วโลก"ศักยภาพของอินเทอร์เน็ตที่มีอยู่มากมายสามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับการศึกษาได้หลายรูปแบบ
ไม่ว่าจะเป็นการใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อการศึกษาที่กำลังมีบทบาทมากขึ้น การสร้างเว็บไซต์เพื่อการเรียนการสอน
จำเป็นจะต้องมีการศึกษาถึงความเหมาะสม ความต้องการของผู้เรียนและองค์ประกอบอื่น ๆ
อีก เว็บไซต์เพื่อการเรียนการสอน
เป็นสื่อการเรียนที่มีพัฒนาการที่แตกต่างกว่าพัฒนาการของสื่อชนิดอื่นทางเทคโนโลยีการศึกษา
เพราะมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับการสื่อสารในชีวิตประจำวันของบุคคลในสังคม ปัญหาในปัจจุบันของการศึกษาและการฝึกอบรมผ่านเครือข่ายอยู่ที่การขาดความรู้
ความเข้าใจ ความสามารถด้านการใช้งานและความสามารถในการเชื่อมต่อเข้าสู่เครือข่ายอินเทอร์เน็ตเพราะการใช้อินเทอร์เน็ตยังไม่ครอบคลุมอย่างทั่วถึง จากแนวคิดดังกล่าว หน่วยงาน หรือองค์กร ทั้งภาครัฐและเอกชนต่างก็ให้ความสำคัญต่อเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมาก
โดยการพัฒนาบุคลากรและตั้งหน่วยงานขึ้นมารองรับเทคโนโลยีสารสนเทศ
แม้แต่การบริหารของรัฐบาลก็ตั้งกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในระดับกระทรวงศึกษาธิการจากการเริ่มต้นประกาศยุบรวมการบริหารงานในกระทรวงศึกษาธิการ
และให้มีการบริหารในระดับเขตพื้นที่
โดยมีสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเป็นผู้รับผิดชอบการจัดการศึกษา
ได้มีการแบ่งหน่วยงานบริหารออกเป็นกลุ่ม ทั้งหมด 5 กลุ่ม
คือ กลุ่มอำนวยการ กลุ่มนโยบายและแผน กลุ่มนิเทศติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา
กลุ่มบริหารงานบุคคล กลุ่มส่งเสริมการจัดการศึกษา
นอกจากนั้น ได้มีการกำหนดงานขึ้นมาในรูปแบบของศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารขึ้นมาในสำนักงานเขตเพื่อรองรับการพัฒนาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารด้านการศึกษา
ซึ่งผู้วิจัย เป็นบุคลากรหลักได้ปฏิบัติงานในฐานะ หัวหน้าศูนย์เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา แต่ก็ยังไม่ชัดเจนในด้านการบริหาร เนื่องจากปัญหาด้านบุคลากร
นโยบาย งบประมาณ รูปแบบและโครงสร้างการบริหาร การวิจัยครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อการจัดตั้งศูนย์เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษาของ
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาศรีสะเกษ เขต 4
ศูนย์เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษาในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาศรีสะเกษ
เขต 4 จะมีความสำคัญต่อการพัฒนาทั้งภายในสำนักงานและโรงเรียน
ในสังกัดเพื่อใช้เทคโนโลยีใน การบริหารงาน ให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล
เพื่อแก้ปัญหาการขาดครูและบุคลากรในการทำหน้าที่ วางแผน ผลิต และบริการทางเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา
และแก้ปัญหาด้านการศึกษา ซึ่งมีสาเหตุหลายประการเช่น การขาดแคลนบุคลากรที่ชำนาญการ
ระยะทางในการติดต่อสื่อสาร การขาดสื่อและอุปกรณ์ทางการศึกษา
ความสิ้นเปลืองทรัพยากร ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ความเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเศรษฐกิจ
เพื่อให้การบริหารงาน ในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว ประหยัด
สนองต่อความต้องการของผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น